สถานการณ์ต่างประเทศ

หัวหน้าคณะเจรจาเรื่องภาษีของอินโดนีเซียที่เดินทางไปสหรัฐเปิดเผยว่า อินโดนีเซียจะลดการนำเข้าอาหารและสินค้าโภคภัณฑ์จากประเทศอื่น เพื่อเพิ่มการนำเข้าจากสหรัฐ

นายไอร์ลังกา ฮาร์ตาร์โต ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประสานงานกิจการเศรษฐกิจอินโดนีเซียมาตั้งแต่ปี 2562 ในรัฐบาลอินโดนีเซียชุดก่อน เดินทางพร้อมคณะไปพบกับคณะเจ้าหน้าที่สหรัฐที่กรุงวอชิงตัน เพื่อหารือเรื่องภาษีที่สหรัฐเรียกเก็บกับสินค้านำเข้าจากอินโดนีเซียในอัตราร้อยละ 32 ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน ก่อนที่สหรัฐชะลอออกไป 90 วัน

เขาแถลงข่าวที่กรุงวอชิงตัน โดยมีการถ่ายทอดผ่านแพลตฟอร์มประชุมทางไกลว่า อินโดนีเซียจะเพิ่มการนำเข้าอาหารและสินค้าโภคภัณฑ์จากสหรัฐ และลดคำสั่งซื้อจากประเทศที่อินโดนีเซียสั่งซื้ออยู่ในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีแผนการจะซื้อสินค้าทางการเกษตร เช่น ข้าวสาลี ถั่วเหลือง กากถั่วเหลืองจากสหรัฐ จะเพิ่มการซื้อสินค้าทุนที่ใช้ในการผลิตสินค้าอื่นจากสหรัฐ จะดำเนินการเรื่องแร่สำคัญ จะลดขั้นตอนการนำเข้าผลิตภัณฑ์พืชสวนจากสหรัฐ และจะอำนวยความสะดวกเรื่องใบอนุญาตและมาตรการจูงใจให้แก่บริษัทอเมริกันที่ดำเนินการอยู่ในอินโดนีเซียด้วย

คณะเจรจาของอินโดนีเซียได้พบหารือกับนายเจมีสัน เกรียร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐและนายฮาวเวิร์ด ลัตนิค รัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐ ทั้ง 2 ประเทศเห็นพ้องกันว่า จะสานต่อการเจรจาให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน

ก่อนหน้านี้รัฐบาลอินโดนีเซียได้เสนอเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐอีก 19,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 633,600 ล้านบาท) ในจำนวนนี้เป็นการนำเข้าพลังงานถึง 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 333,470 ล้านบาท) เพื่อลดยอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐและเลี่ยงการถูกขึ้นภาษี.