สถานการณ์ต่างประเทศ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ระบุว่า รัฐบาลประเทศอื่นจะต้องจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อให้สหรัฐยกเลิกมาตรการภาษีใหม่ที่เขาเปรียบเทียบเป็นยารักษาโรค

ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินประจำตำแหน่ง หรือแอร์ฟอร์ซวัน (Air Force One) เมื่อวันอาทิตย์ ระหว่างเดินทางกลับจากการเล่นกอล์ฟที่รัฐฟลอริดาว่า เขาไม่ได้ต้องการให้ตลาดการเงินตลาดทุนทั่วโลกร่วงลงอย่างที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ แต่บางครั้งจำเป็นต้องรับประทานยาเพื่อรักษาโรค เขาได้พูดคุยกับผู้นำยุโรปและเอเชียหลายคนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้นำเหล่านี้ต้องการเจรจาให้เขาลดอัตราภาษีที่เก็บสูงสุดร้อยละ 50 แต่เขาจะไม่เจรจาจนกว่าประเทศเหล่านั้นจะจ่ายเงินจำนวนมากให้สหรัฐเป็นรายปี

ด้านนายสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ให้สัมภาษณ์ในรายการมีทเดอะเพรสส์ (Meet the Press) ของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีนิวส์ (NBC News) ว่า นับตั้งแต่ประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศเรื่องภาษีใหม่เมื่อวันที่ 2 เมษายน ตามเวลาสหรัฐ จนถึงขณะนี้มีประเทศต่าง ๆ มากกว่า 50 ประเทศได้เริ่มเจรจากับสหรัฐแล้ว ประธานาธิบดีได้สร้างอำนาจต่อรองให้แก่ตนเองในระดับสูงสุด

ขณะที่นายฮาเวิร์ด ลัตนิค รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยในรายการเฟซเดอะเนชัน (Face the Nation) ของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสนิวส์ (CBS News) ว่า อัตราภาษีใหม่จะบังคับใช้ไปหลายวันหรือหลายสัปดาห์

นักเศรษฐศาสตร์ของเจพีมอร์แกน ประเมินว่า ภาษีใหม่จะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศห รือจีดีพี (GDP) ของสหรัฐในปีนี้ทั้งปี ลดลงร้อยละ 0.3 จากที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัวร้อยละ 1.3 ขณะที่อัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 5.3 จากร้อยละ 4.2 ในขณะนี้.